วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

เขียน Truss โค้งด้วย Revit architect Style ลูกทุ่งตอน 1.2

ช่วงนี้ภาระกิจแยะมาก เลยไม่ได้มา Update กันสักเท่าไหร่นักครับ งานราษฎ์ งานหลวง ชนกันมะรุมมะตุ้มไปหมด เลยไม่ได้จัดการวิธีการเขียน Truss โค้งให้เสร็จสักที คราวก่อนๆ ผมลืมขั้นตอนสำคัญในการทำ Truss โค้งไปนิดนึงครับ การเขียน Truss โค้ง เราต้องเข้าใจ Structure ของเค้าเสียก่อนครับ โดยต้องทำการโปรเจค Line ให้ได้ตามความต้องการของตัว Truss ก่อนครับ ในภาพตัวอย่างจะเห็นเส้น Ref. เขียวๆ นั่น เพื่อเป็นแนว Sweep ของตัว Structure เนื่องจาก Truss โค้งจะมีระนาบไม่เท่ากัน ต้องจัดการแนวโปรเจคระนาบ นั้นๆเสียก่อนครับ เมื่อเราจัดการได้แล้ว ก็ทำการ Sweep Structure ตามแนวเส้นได้เลย จากรูปจะเห็นแนว Draft มาก น้นเป็นการคำนวนแนวของตัว Frame ใน Truss ครับ ถ้าเข้าใจแนวแกนแล้ว รับรองทำ Truss โค้งไม่ยากครับ แต่เส้นจะแยะมากครับ คราวหน้ามาดูกันต่อครับ

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

เขียน Truss โค้งด้วย Revit Architect Style ลูกทุ่ง ตอน 1.1

เนื่องจากมีเพื่อนๆร่วม Web ใน Thaibim แนะนำว่า น่าจะทำ Truss ใน Family จะดีกว่า ขอบอกว่าเห็นด้วยครับ การทำใน Family สามารถนำไปใช้ได้หลายๆงานครับ ควรทำเก็บไว้เป็นอย่างยิ่งแล้วนำมาโหลดลงโปรเจคได้เลยครับ แต่ตอนนี้ขอแนะนำหลักการการทำใน Model ก่อนครับ คราวต่อไปจะมาเสนอแนะการทำใน Family ให้อีกทีครับ ตัวอย่างการทำ Truss ใน Family ครับ
เมื่อได้ Truss ตามต้องการแล้ว ก็นำไปใช้ได้ครับ การทำ Truss ใน Model กับใน Family จะมีวิธีการทำต่างกันเล็กน้อยครับ

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

เขียน Truss โค้งด้วย Revit Arch style ลูกทุ่ง ตอน 1

มาดูวิธีการเขียน Truss โค้งใน Revit Architect Style ลูกทุ่งๆ กันนะครับ เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับท่านผู้สนใจบ้างคร้าบบบบบบบ.... รูปนี้เป็นตัวอย่าง ตอนทำแบบร่างสนามบินที่ กัมพูชาครับ เป็นหลังคาโค้งทั้งหลังครับ ตอนหลังเจ้าของลดงบลงเลยไม่เป็นแบบที่ทำในครั้งแรกครับ
อย่างแรกหลังจากเปิดโปรแกรมมาแล้ว และเราได้คำนวนระยะตำแหน่งของเสา ที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ให้เขียนเสาลงไปตามที่กำหนดได้เลยครับ สมมติว่าผมมีเสา 4 เสานะครับและผมได้กำหนดตำแหน่งแล้วตามรูปที่ 1 นี้นะครับ



จากนั้นสร้างเสาสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากันขึ้นมา 1 ต้น นะครับ แต่คงสงสัยกันนะครับว่าสร้างมาทำไม ตามมาดูกันต่อครับ ในรูปที่ 2 นี่ผมสร้างเสา 4 เหลี่ยมมา 1 ต้นแล้วนะครับ
จากนั้นให้ย้ายเสาสี่เหลี่ยมมาตำแหน่งกลางเสา WF นะครับ เจ้าเสาสี่เหลี่ยมนี่มีความหมายมากครับ ต่อไปจะใช้เป็นแกนในการสร้างแนว Truss ครับ ดูรูปที่ 3 นะครับ ย้ายมากลางเสา WF แล้วครับ
หลังจากได้ตำแหน่งเสาแล้วให้เลือก tab home แล้วเลือก ที่ช่อง Work Plan แล้วคลิกที่ Set นะครับ เมื่อคลิกแล้ว โปรแกรมจะถามว่า เลือกโดยใช้อะไร ให้เลือก Pick Plan นะครับ แล้วกลับมาเลือกที่ด้านของเสาที่เราจะทำแนว Truss นะครับ ของผมเลือกด้านตามรูปนะครับ เมื่อเลือกแล้วให้คลิก Show รูปจะแสดงด้านที่เลือกเป้นสีฟ้าครับ
พรุ่งนี้มาติดตามกันต่อนะครับ ผลลัพธ์ จะได้ออกมาตามรูปถัดไปครับ วันนี้ขอตัวก่อนครับ

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

แสง และ เงา, Light & Shadow 2

หลังจากคราวที่แล้วมาเล่าเรื่องแสงและเงาในตอนแรกไปแล้ว คราวนี้เรามาลองดูภาพการจัดวางแสง สี จากสถานที่จริงๆ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือก การจัดวาง ตำแหน่งของไฟเพื่อให้เกิดมิติ และ ความสวยงามกันครับ















เผื่อเป็นแนวทางในการสร้างมุมมองของงานให้ออกมามีสีสันมากขึ้นครับ

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

แสงและเงา, Light & Shadow

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบแสงไฟยามราตรี เวลาทีส่องกระทบกับตัวอาคารมากๆครับ เวลาที่แสงกระทบกับผิววัสดุที่มีคุณลักษณะต่างกัน ในพื้นที่ต่างกัน ความงามของภาพที่มองเห็นจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดีครับ จำได้ว่าครั้งหนึ่งสมัยเรียนเคยเห็นรุ่นพี่ทำงานออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ แล้วจัดแสงเงาเป็นช่วงสามเวลา เช้า เย็น และ กลางคืน เห็นแล้วรู้สึกอยากทำได้บ้าง แต่สมัยนั้นเป็นเรื่องห่างไกลเหลือเกินที่ผมจะทำได้ คอมพิวเตอร์รุ่น 486 สมัยนั้นราคามันน้อยๆซะเมื่อไหร่ อีกอย่างถึงเอาเครื่องมาวางต่อหน้าก็ไม่กล้าใช้หรอกครับ กลัวมันพังน่ะ พังแล้วไม่มีปัญญาซื้อคืนให้เจ้าของครับ จากนั้นมันก็ฝังใจมาตลอดว่าสักวันหนึ่งผมจะทำให้ได้ จนวันนี้มาพบกับ Revit Architect เข้าความฝันก็เป็นจริง ฮา........ว่าแล้วก็จัดการซะเลย ด้วยความสามารของตัวโปรแกรม ทำให้ลองจัดแสงสี ได้หลากหลายครับ ลองดูรูปแนบนี้ ด้วยแสงสองอารมณ์ อารมณ์อุ่นๆ อารมณ์ร้อนๆ สามารถทำได้ภายในพริบตาครับ แต่ต้องรอหน่อยนะครับ ตอน Render เนี่ยผมสั่งเสร็จแล้ว ผมก็ไปนอนรอเลย ตื่นมาดูยังไม่เสร็จ ต้องหิ้วโน๊ตบุครุ่นปรมาจารย์ไปใช้ชั่วคราวครับ แต่ผลที่ได้หลังจาก Render ก็น่าพอใจครับ นี่ยังใช้ความสามารของโปรแกรมแค่ครึ่งเดียวนะครับ ยังไม่ได้ใช้ตัวRender ขั้น Best เลยนะครับ เอาไว้จะมาว่ากันวันหลังอีกทีครับ โดยหลักการแล้วการเล่นแสงไฟเนี่ยถ้าสังเกตงานต่างประเทศบ่อยเขาจะชอบใช้กันนะครับ มิติมันจะมากแล้วความลึกของตัวภาพจะมีเยอะครับ แล้วค่อยมาดูวิธีการจัดวางกันอีกทีครับคราวหน้า วันนี้ขอไปจัดผังคอนโดก่อนครับ......

Review Revit Architecture 2010 by Revit Lover

ด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบเป็นงานที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นการต้องใช้โปรแกรมสำหรับเขียนแบบเพื่อใช้ในการก่อสร้างจริง จึงไม่พ้นที่จะต้องใช้ AutoCad ในการทำงานอยู่ตลอด แต่ก้อพบว่างานทำ Shop Drawing นี่มันช้าจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องทำ Shop Drawing งานอาคารที่มีรายละเอียดมาก จึงลองเสาะหาโปรมแกรมอื่นที่คิดว่าจะช่วยให้งานเร็วขึ้น บังเอินว่าในระหว่างที่เดินดุหนังสืออยู่ในร้านหนังสอแห่งหนึ่ง สายตาก็ไปพบกับปกหนังสือเล่มหนึ่งเข้า รูปหน้าปกหนังสือเป็นรูปบ้านและเขียนชื่อหนังสือว่า "REVIT 7" แถมพ่วงท้ายด้วยว่ามาจากตระกูล Autodesk เออแหม มันช่างเข้าเค้าอะไรเช่นนี้ แต่ว่าแต่ว่าไอ้เจ้า Revit นี่มันเป็นยังไงหว่า ตัดสินใจอยู่พักใหญ่ๆ ถอยมาศึกษาซะเลย ครั้งแรกที่อ่าน ยอมครับ ยอมเลยงงมาก ใช้ไงหว่าหน้าตาไม่เหมือน AutoCad เลย แล้วตรูจะใช้เป็นไหมเนี่ย เอาวะลองอ่านดูก่อนซักตั้ง อ่านจบเล่มแล้วยังงงไม่หาย ทีนี้จะแก้งงทำไง ลองเล่นมันซะเลยดูซิว่ามันจะหายงงไหม ตอนนั้นหาได้แต่ REVIT 8 คิดว่าคงไม่ต่างกันมาก หน้าตาโปรแกรมก็ไม่ต่างกันเลย ลองศึกษาดูก็พบว่า ไม่ยากอย่างที่คิดครับ ศึกษาอยู่อาทิตย์นึง ก็พอที่จะทำงานได้ (รูปแรกตอนหัดเขียนใน REVIT 8) พบว่าจริงแล้วผมหลงรักเจ้าโปรแกรมนี้เสียแล้วสิ จากนั้นก็ศึกษามาตลอดครับ จนตอนนี้เป็น Version 2010 แล้วครับ แหมร่ายมาซะยาวไม่เข้าเรื่องซะที มาเข้าเรื่องกันเลยครับ ตอนที่ REVIT 2009 ออกมาหน้าตายังเดิมๆเหมือน REVIT 7 อยู่เลยครับ แต่พอมา REVIT 2010 นี่ เป็น Ribbon แล้วครับ งงซิครับทีนี้ ไอ้ที่เคยๆใช้อยู่ เรียกใช้งานตรงนั้นตรงนี้ มันไม่อยู่แล้วซิครับ หาไม่เจอแล้ว ต้องมานั้งศึกษากันพอสมควร แต่ถ้าใครใช้ AutoCad 2009 อยู่ ก็จะคุ้นเคยได้ไม่ยากครับ ตำแหน่งเครื่องมือไม่เหมือนกันก็จริง แต่ลักษณะการทำงานคล้ายกันครับ เรียก Ribbon ได้ไม่ยาก พอคุ้นมือแล้ว แหม มันช่างเหมาะแท้ ยิ่งใช้ยิ่งสนุกครับ การทำงานก็รู้สึกว่า Engine ดีกว่าแต่ก่อนมาก Render ก็ได้ภาพที่ใกล้เคียงมากครับ สวยกว่าเดิม แต่ก็ต้องแลกด้วยเวลาที่เพิ่มตามไปด้วยนะครับ (รูปที่ 2 Render ใน Revit 9 ครับ) มาดูหน้าตาหลักๆ Version 2010 กันก่อนครับ เมือเปิดโปรแกรมมา จะพบว่าโปรแกรมให้เลือกเปิดว่าเปิด Project ที่ด้านบนของหน้าจอ หรือ เลือกใช้งานในส่วนของ Family ที่ด้านล่างของหน้าจอครับ อันนี้เดิมจะแบ่งเป็นซ้ายขวาครับใน Version 2009 ใครจะใช้อะไรก็เลือกเอาครับ ในส่วนของ Ribbon ก็แยกรายละเอียดเป็นกลุ่มๆชัดเจนขึ้น ลองใช้สักพักจะคุ้นเคยครับ การ Insert file ก็ทำได้สะดวกขึ้นครับมีให้เลือกทั้งแบบ Link หรือ Insert เข้ามาเลยครับ การวัดระยะทำ Dimension สะดวกขึ้นครับ กำหนดระยะง่ายขึ้นครับ ในส่วนอื่นๆ การใช้คำสั่งแบ่งเป็นหมวดหมู่แล้ว หาไม่ยากครับ เมื่อใช้คล่องแล้ว จะรู้สึกหาไม่ยากครับ ที่หายากไปหน่อยเพราะหาไม่เจอเนี่ย จะเป็นการทำรูป 3D ครับ เพราะโปรแกรมย้าเคื่องมือไว้ในแถบ Tool ด้านบนของโปรแกรมครับ แต่พอหาเจอแล้ว ไม่ยากครับ อีกตัวที่หาไม่เจอคือ Render ครับทีแรกนึกว่าอยู่ในหมวด View แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอครับ ปรากฎว่า เขาปรับมาไว้ในแถบ Tool ด้านล่างรวมกับเครื่องมือ เช็คแสงเงาครับ พอจับทางได้แล้วไม่ยากครับ โดยรวมแล้วเมื่อคุ้นเคยกับตำแหน่งของ Tool ต่างแล้วจะพบว่าใช้งานได้คล่องลื่นไหลดีครับ โดยส่วนตัวชอบครับสำหรับ Version นี้ สำหรับคนที่มีหน้าจอเล็กๆ สามารถพับ Ribbon ไปซ่อนได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การทำงานครับ ส่วนใครที่มีหน้าจอใหญ่ๆ ตามสะดวกครับเปิด Ribbon ไว้ก็สะดวกครับ การทำงานใน Revit นี่อำนวยความสะดวกให้ผมได้มากครับ สามารถสรุปปริมาณวัสดุได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องมานั่งนับจากใน Drawing แบบเดิมๆครับ Export เป็น File .dwg เพื่อส่งให้ส่วนอื่นๆทำงานได้ต่อไปครับ การทำงานรวดเร็วขึ้นเขียนครั้งเดียวได้ครบ แปลน, รูปด้าน, รูปตัด แถมด้วย 3D อีกต่างหาก สะดวกและช่วย Safe เวลาให้ได้มากครับ ใครที่ยังไม่เคยใช้ลองศึกษาดูครับ จะพบว่าไม่ยากอย่างที่คิดครับ (รูปที่3 ทำใน Revit 2009) (รูปที่4,5 ทำใน Revit 2010)